คนร้ายก่อเหตุอุกอาจกลางเมืองปัตตานี ใช้อาวุธปืน M16 กระหน่ำยิงใส่ รองสารวัตร โคกโพธิ์ เสียชีวิตคามอเตอร์ไซค์ จนท.คาดฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบ ช่วงค่ำวานนี้ (7 ธ.ค.) เกิดเหตุคนร้าย 2 ราย ขี่มอเตอร์ไซค์ตามหลัง ร.ต.ท.วีระศักดิ์ สารพร อายุ 54 ปี รองสารวัตร โคกโพธิ์ ก่อนชักปืน M16 รัวยิง 10 นัด จนเสียชีวิต
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนเพิ่มเติม
ประกอบกับเช็คกล้องวงจรปิด พบว่าผู้ตายได้ขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านพัก ก่อนถูกคนร้าย 2 คน แต่งกายคล้ายชุดผู้หญิงมุสลิมขี่มอเตอร์ไซค์ตามหลัง เมื่อได้จังหวะ คนร้ายที่ซ้อนท้ายได้ลุกขึ้นยืน แล้วหยิบ M16 ยิงจนรองสารวัตร เสียหลักล้ม ก่อนจะยิงซ้ำอีกหลายนัด จนรองสารวัตรแน่นิ่งไป หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปขโมยอาวุธปืน .357 ของผู้เสียชีวิต และหลบหนี
ซึ่ง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กระจายกำลังปิดล้อมรัศมี 500 เมตร จากจุดเกิดเหตุ และตั้งจุดตรวจบุคคล รวมถึงรถต้องสงสัยทุกคนที่เข้าออก
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ที่วางแผนมาอย่างดี เพื่อต้องการตอบโต้เจ้าหน้าที่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ทางตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัยที่อาจจะอยู่กลุ่มนี้ได้ 1 ราย
โดยผลการสืบทราบครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากโครงการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ณ พื้นที่ท่าอากาศยาน และโครงการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ณ พื้นที่ท่าเรือสากล ที่ตรวจยึดได้ก่อนหน้านี้จำนวน 300 กิโลกรัม ที่ต่างประเทศ ก่อนสืบสวนแล้วรู้ว่ายาเคล็อตนี้ส่งตรงมาจากไทย
ถัดมาวันที่ 22 พ.ย. ป.ป.ส. แถลงหลังจากตรวจทั้ง 457 กระสอบ ด้วยน้ำยาพิสูจน์สารเสพติด ผลออกมาเป็นสีม่วง จึงคาดว่าของที่อยู่ในกระสอบคือเคตามีน แต่หลังจากนำสารตัวอย่าง กลับมาตรวจในห้องแล็บ กลับพบเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟตแทน ซึ่งไม่ใช่ยาเสพติด ประชาชนทั่วไปสามารถครอบครองได้
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุที่มียาเสพติดปนมาเพียงเล็กน้อย เพราะผู้ลักลอบทำการเปลี่ยนกระสอบก่อนส่งไต้หวัน
แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังสามารถขยายผลจับกุมมาดำเนินดคีข้อหามียาเสพติดไว้ครอบครองและจำหน่ายได้ เพราะมีปริมาณเกิน 0.5 กรัม
ศาลตัดสิน บรรยิน คดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา จำคุกตลอดชีวิต
ประหารชีวิต บรรยิน คดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา – จากกรณี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 56 ปี อดีต อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถูกฟ้องคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา โดยโจทก์เป็นพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 3 ยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2563 พร้อมด้วยนายมานัส ทับทิม อายุ 67 ปี, นายณรงค์ศักดิ์ ป้อมจันทร์ อายุ 48 ปี, นายชาติชาย เมณฑ์กูล อายุ 31 ปี, นายประชาวิทย์ หรือตูน ศรีทองสุข อายุ 33 ปี และ ด.ต.ธงชัย หรือ สจ.อ๊อด วจีสัจจะ อายุ 63 ปี ทั้งหมดภูมิลำเนา จ.นครสวรรค์ ตกเป็นจำเลยที่ 2-6
ล่าสุดวันที่ 15 ธ.ค. 63 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี ศาลอ่านคำพิพากษา ในความผิดที่จำเลยโดนฟ้อง 9 ข้อหาประกอบด้วย
1.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 289
2.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้ใดเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอาตัวไปถึงแก่ความตาย มาตรา 309, 313
3.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มาตรา 310
4.ร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป มาตรา 139, 140
5.เป็นซ่องโจร โดยสมคบกันเพื่อกระทำผิดที่มีระวางโทษประหารชีวิต มาตรา 210
6.ร่วมกันพยายามข่มขืนใจผู้อื่น ให้กระทำการใดโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป มาตรา 213
7.ร่วมกันซ่อนเร้น ทำลายศพเพื่อปิดบังการตายและสาเหตุการตาย มาตรา 199
8.ร่วมกันกระทำการใดๆ แก่ศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นเพื่ออำพรางคดี ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อ.) มาตรา 150 ทวิ
9.ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน มาตรา 145 ประกอบ ป.อ.มาตรา 33, 80, 83, 91, 92
ส่วนข้อหาที่ 10 สวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน เพื่อให้คนอื่นเข้าใจว่าตนมีสิทธิและแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิเพื่อกระทำผิดอาญา มาตรา 146 ถูกฟ้องเฉพาะ พ.ต.ท.บรรยิน
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร